ยิมฯอัดท่ายากระดับโลก ทุ่มสุดตัวกับทองซีเกมส์

สมาคมกีฬายิมนาสติก เดินหน้าเต็มที่จับนักกีฬาซ้อมวันละ 5 ชั่วโมง พร้อมกับใส่โปรแกรมโหดเป็นท่ายากระดับโลก แม้หนักใจเรื่องโควิดระบาดในเวียดนาม แต่ยังมั่นใจคว้าเหรียญทองได้มากกว่าครั้งที่แล้วอย่างแน่นอน
ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับนักกีฬายิมนาสติกทีมชาติไทย ในการเตรียมเข้าร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ระหว่างวันที่ 12-23 พฤษภาคม 2565 ที่ประเทศเวียดนาม ขณะนี้ได้เก็บตัวทีมชาติ จำนวน 27 คน แยกเป็น ยิมนาสติกศิลป์ 9 คน , ยิมนาสติกลีลา 10 คน , ยิมนาสติกแอโรบิก จำนวน 8 คน ณ ศูนย์ฝึกเพื่อการแข่งขันในซอยเพชรเกษม 81
น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ นายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้นักกีฬาทั้งหมดเข้าสู่ระบบการเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น ภายใต้การป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ด้วยการไม่เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้าไปในสถานที่เก็บตัวฝึกซ้อมอย่างเด็ดขาด พร้อมกันนี้ยังได้ระดมผู้ฝึกสอนที่มีความสามารถเข้ามาดูแลในเรื่องโภชนาการ และ ระเบียบวินัย ภายใต้การควบคุมเป็นอย่างดีของผู้บริหาร ดร.กุสุมาลย์ ประเสริฐศรี และ ผู้ฝึกสอนต่างประเทศ ซึ่งได้เน้นการฝึกซ้อมทุกวันอย่างต่อเนื่อง วันละไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง
ดร.กุสุมาลย์ ประเสริฐศรี อุปนายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้จัดการทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ช่วงที่เก็บตัวซีเกมส์ขณะนี้ ระยะเวลาเหลือน้อยมาก จำเป็นต้องลงมาคุมเองเพื่อสร้างวินัยให้กับนักกีฬาทุกคน ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึง 4 เดือนจึงต้องเร่งเต็มที่ วางโปรแกรมอย่างกระชับแต่มีประสิทธิภาพ ด้วยการใส่ท่าที่ยากขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะท่าที่นักกีฬาระดับโลกซ้อมกันอยู่ขณะนี้ ดังนั้นนักกีฬาทุกคนต้องมีสมาธิ และตั้งใจฝึกซ้อม เพื่อสร้างร่างกายให้ฟิตมากกว่า 100 เปอร์เซ็น ซึ่งล่าสุดทุกคนมีการพัฒนาที่ดี และอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพึงพอใจ
ส่วนการได้อดีตทีมชาติทั้ง ศศิวิมล เมืองพวน และ สีน้ำ รักษ์ภู กลับมา รวมทั้ง ธารธิดา โซเฟีย ริคแคร์ ลูกครึ่งไทย – เยอรมัน มาร่วมทีมชาติในครั้งนี้ ทำให้ยิมศิลป์หญิงมีความแข็งแกร่ง หวังเหรียญทองได้เกินกว่า 80 เปอร์เซ็น ส่วน ยิมลีลา ยังมี “ปอปอ” พิยดา พีรมธุกร กับ “ปิ่น” เบ็ญจพร ลิ้มพานิชย์ , ปัณฑิตา ทองสอง และ ดลพร ชุ่มชูจันทร์ ผ่านเกมระดับใหญ่มามากมาย คู่แข่งมีเพียง มาเลเซีย กับ ฟิลิปปินส์ เท่านั้น ขณะที่ ยิมนาสติกแอโรบิก ชั่วโมงนี้ทีมไทยซ้อมดีมีความลงตัวมากที่สุด ผิดกับคู่แข่งทุกชาติที่นำระบบการผสมผสานจาก ยิมลีลา และ ยิมศิลป์ มารวมกัน ทำให้ท่าที่แสดงอาจจะไม่ลงตัว ดังนั้นคิดว่า ยิมแอโรบิกทีมชาติไทย น่าจะหยิบเหรียญทองได้ไม่ยาก ซึ่งการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่แล้ว เราทำได้ 1 เหรียญทอง ครั้งนี้มั่นใจว่ามากกว่าอย่างแน่นอน