นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ แถลงถึงการลงติผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา มีบุคคลที่น่าสนใจที่ลงมติไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ มาตรา 36 งบประมาณส่วนราชการในพระองค์ คือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พล.ต.ท.วิศณุ ม่วงแพรศรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย และพล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทั้ง 3 คนได้รับพระราชทานยศ และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งเป็นพระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่จะพระราชทานให้ ส่วนการลงมติคว่ำมาตรา 36 เป็นอำนาจหน้าที่ของ ส.ส. หมายถึงส.ส.พรรคก้าวไกล และบุคคลที่กล่าวถึงที่เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ต่อมามีหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ปรากฎในเฟซบุ๊กของนายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย และในเพจเฟซบุ๊กของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ว่าขอแก้มติ ซึ่งตามระเบียบข้อบังคับการลงมติ ถ้าจะแก้ไขต้องแก้ก่อนมีผลว่ามติออกมาเป็นอย่างไร ส่วนกรณีที่เมื่อผลการลงคะแนนออกมาแล้วก็สามารถทำเรื่องได้ คือ ผู้ที่ลงคะแนนไม่ทัน หรือลงคะแนนผิดพลาด ก็สามารถลุกขึ้นแจ้งประธานในที่ประชุมเพื่อขอเปลี่ยนแปลงได้โดยให้บันทึกไว้ ซึ่งเป็นเพียงแค่การบันทึกไว้ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมติหรือลงมติเพิ่มได้
“การลงมติใช้มือกดโหวต คนเหล่านี้ปฏิเสธว่าไม่ได้เจตนาคว่ำ แต่ใช้มือกดโหวตยังไม่ถูก ถามว่าแบบนี้ไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบอะไรเลยหรือ การกดโหวตต้องใช้สติ จึงอยากถามว่าท่านมีความคิดอย่างไรกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และท่านมีหนังสือถึงประธานสภาฯ ขอเปลี่ยนมติซึ่งหนังสือแบบนี้เป็นเพียงสภาโจ๊กเท่านั้น คงต้องยื่นให้กับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่เป็นประธานสภาโจ๊ก เพราะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมติได้ ท่านต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการที่ท่านลงมติคว่ำ ด้วยการคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้มา และคืนยศที่ได้รับพระราชทานให้หมด ขอให้ท่านทบทวนพิจารณาตัวเอง การโหวตมาตราอื่นๆทำไมกดถูก แต่มาตรา 36 บอกไม่เจตนาใครจะไปเชื่ออยากหัวเราะดังๆ นี่ไม่ใช่สภาโจ๊กที่จะชักเข้าชักออกเหมือนการชักว่าวได้ ลงมติเหมือนเด็กอนุบาล ตอบผิดแล้วไปขอแก้คำตอบ” นายสิระ กล่าว
Comment here