TV Onlineท่องเที่ยวภาคเหนือ

Fam Trip ชมแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

“แม่ฮ่องสอน” ยกระดับและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรม ใน 3 อำเภอแห่งประวัติศาสตร์ “ปางมะผ้า ขุนยวม เมืองแม่ฮ่องสอน” จัดกิจกรรมให้ชุมชนช่วยการท่องเที่ยวแบบครบวงจร

เริ่มต้อนฤดูหนาว เดือนพฤศจิกายน เหลือเวลาอีกไม่นานก็จะปีใหม่แล้วเวลาช่างผ่านไปเร็วจริงๆ ว่าไหมคะท่านผู้อ่าน ห่างหายกันไปนานไม่ได้มาทักทายกันเลย ครั้งนี้มาก็ขอหอบเอาบรรยากาศดีช่วงหน้าหนาวมาฝากสักหน่อยนะ ทางผู้เขียนได้มีโอกาสไปสัมผัสลมหนาวที่เมืองสามหมอก เมื่อวันที่ 7,8และวันที่ 9 ที่ผ่านมา เป็น งานกิจกรรมเปิดตัวชุมชนท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน
“แม่ฮ่องสอน” ยกระดับและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรม ใน 3 อำเภอแห่งประวัติศาสตร์ “ปางมะผ้า ขุนยวม เมืองแม่ฮ่องสอน” จัดกิจกรรมให้ชุมชนช่วยการท่องเที่ยวแบบครบวงจร
จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญและน่าสนใจอย่างยิ่งโดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ และธรรมชาติในแถบเทือกเขารอยต่ออำเภอปางมะผ้า ปาย และเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีสภาพป่าเขา ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ สวยงาม มีถ้ำอยู่จำนวนมาก ซึ่งจากการสำรวจพบว่า มีมนุษย์ถ้ำโบราณอาศัยอยู่เป็นเวลานานมาแล้ว นอกจากนี้ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังมีประวัติศาสตร์ที่สำคัญ คือ สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ทหารญี่ปุ่นได้ยกพลมาตั้งฐานทัพบริเวณอำเภอขุนยวม ทำให้เกิดประวัติและเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับชาวญี่ปุ่น

ประวัติศาสตร์ทั้งสองด้านของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับการบอกเล่าเรื่องราว ถ่ายทอด โดยผู้ที่อยู่ในชุมชน เองบอกเลยคะว่าไม่เสียเที่ยวในการมาเที่ยวจริงๆ ประจวบเหมาะกับช่วงนี้กระแสและความนิยม การท่องเที่ยวโดยชุมชน “Community Based Tourism” ก็ได้รับความนิยมและได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ถือว่าเป็นการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่งที่ เป็นการท่องเที่ยวที่น่าสนับสนุเพราะเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ อนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นถิ่น ทำให้ผู้ที่มาเยือนได้ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ของชุมชน รวมถึง กลุ่มชาติพันธุ์ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทำให้เกิดประโยชน์แก่คนในท้องถิ่น ในมิติที่ชาวบ้านเป็นเจ้าของ เป็นผู้รับผิดชอบ และทำหน้าที่จัดการการท่องเที่ยวได้ด้วยชุมชนเอง รวมถึงเป็นการยกย่อง เชิดชูภูมิปัญญาชาวบ้านที่เกิดจากประวัติศาสตร์อันยาวนานของชุมชน ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน

เริ่มต้นการเดินทางเดินครั้งนี้ (วันที่ 7 พฤศจิกายน 2562) ด้วยเครื่องบิน ที่สนามบินดอนเมือง ด้วยเที่ยวบินประมาณตี 5 ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 1 ชม. เห็นจะได้ค่ะ ก็ถึงสนามบินเชียงใหม่เช้าพอดีเลย อากาศสดชื่นสุดๆเลยค่ะ มองซ้ายมองขวา เห็นน้องทีมงานยื่นรอรับอยู่ ด้วยหน้าตายิ้มแย้ม จะรออะไรละคะ ก็รีบขึ้นรถ เพื่อมุ่งหน้าไปยังจังหวัดแม่ฮ่องสอนกันเลย

จากเครื่องบิน ก็มาต่อกันด้วย รถตู้จาก เชียงใหม่ – แม่ฮ่องสอน รถตู้มารับออกจากสนามบินเดินทางไปจังหวัดแม่ฮ่องสอน ระหว่างเดินทางก็ได้ชมข้างทาง ช่างสวยงามจริงๆค่ะ หลายๆท่านที่เคยมา คงนึกออกว่าความสวยงามจะมากขนาดไหน ใช่ไหมละคะ แต่หากท่านใดยังไม่เคยมา วันนี้ก็มีภาพมาฝากให้ชมกันเล็กน้อย พอหอมปากหอมคอ ครั้งนี้ชมรูปไปก่อน แต่อย่าลืมหาโอกาสเพื่อไปเที่ยวชมให้ได้นะคะ เดินทางมาสักพัก ก็ถึงเริ่มหิวแล้ว ก่อนเข้าไปชมธรรมชาติ ในถ้ำลอด ก็หยุดแวะรับประทานอาหารกลาง ที่  ร้านครัวนอร์ทเทอร์นฮิลล์  ทางร้านได้จัดเมนูอาหารไว้ให้เรียบร้อย อิ่มหายหิว อยากหลับมากๆค่ะ แบบที่คำที่เคยได้ยินกันว่า หนังท้องตึงหนังตาหย่อน ได้หมอนสักใบคงดี ก็อาหราอร่อยๆ แบบท้องถิ่น ชวนลิ้มลองจริงๆ เช่นเมนู ไก่อุบ ผัดเห็ดดินด้าน น้ำพริกหนุ่ม ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านของที่นี่มีรสชาติอร่อยมากคะ

หลังจากที่ทานอาหารเสร็จก็ได้เวลาออกเดินทางไปที่ ถ้ำลอด อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฉ่องสอนเมื่อทางคณะก้าวเท้าแรกลงไปจากรถ ก็ได้ยินเสียงกล่าวคำว่า สวัสดีครับ/ค่ะ สวัสดีจ้าว น่ารักมากๆว่าไหมคะ หลังจากเสียงสวัสดีแล้ว ก็เริ่มได้ยินเสียงดนตรี หันไปดู เห็น ฆ้องราว (ฆ้องราว  เป็นอัตลักษณ์ของชาวไทใหญ่)  ชวนให้ ครึกครื้นมากๆเลยค่ะข้างหน้า เครื่องดนตรี ก็ได้พบกับ การแสดงโต   ในการแสดงโต เป็นการแสดง โดยใช้ผู้ชาย ๒ คนเล่น คนหนึ่ง เชิดทางหัว ส่วนคนที่สอง เชิดทางหาง คล้ายๆ การเชิดสิงโตของจีนนั้นเอง

ตื่นตาตื่นใจกับการแสดงแล้ว ก็มานั้งฟังเรื่องราว เกี่ยวกับ ประวัติเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ แหล่งธรรมชาติ และอื่นๆที่มีความสำคัญและน่าสนใจอย่างยิ่ง ฟังเรื่องเล่าสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ฟังแล้วก็ต้องปฏิบัติจริงค่ะ ช้าทำไมละคะเข้าไปดูบรรยากาศใน ถ้ำลอดกันดีกว่า ก่อนเดินเข้าตรงบริเวณปากทาง ถ้ำลอดจะมีชาวบ้านยืนรอพร้อมถือตะเกียงเจ้าพายุ เพื่อนำทางนักท่องเที่ยวทุกท่านที่มาชมธรรมชาติ ภายในถ้ำ สวยงามมากๆ เดินไปตามสะพานไม้ไผ่ สักพัก ก็จะเจอกับหินรูปทรงต่างๆ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ รูปหินที่สวยงามนี้บางรูป มีรูปแลดูก็เหมือนบล็อกโคลี่นะ ก็จินตนาการไปเลือนๆ เพราะหินแต่ละก้อน ความงดงามไม่เหมือนกัน รูปทรงก็แตกต่างกันด้วย

หลังจากที่เดินเข้าไปหินงอก หินย้อย รูปทรงต่างๆเสร็จแล้ว ก็ ต่อด้วย เดินขึ้นบันไดประมาณ 95 ขั้นนะคะ ความงดงามก็จะได้อีกบรรยากาศเลยค่ะ เมื่อขึ้นไปแล้วก้มลงมาจะเห็นหินเป็นเหมือนรูปตุ๊กตาสวยมากหลังจากชื่นชม (ถ้ำ2) โซน 2 เสร็จก็เดินลงจากบันไดเพื่อไปชม(ถ้ำ 3) โซน3 ด้วยการนั่งแพไม้ไผ่ ที่ชาวบ้านเตรียมไว้สำหรับ บริการนักท่องเที่ยว 1ลำ นั้งได้ 3 ท่านนะคะ นั่งชมความงามกันแบบสบายๆได้เห็นปลามากมายที่อยู่ในถ้ำ พากันว้ายมาหา เหมือนบอกว่า ยินดีตอนรับ เพลินไปอีกแบบ นั่งแพไปสักพัก จะเห็นจุดชมวิวที่สวยมาก ว่าแล้วก็ขอเก็บรูปมาฝากนะคะ ถ่ายออกมาอาจไม่สวย เท่ากับสถานที่จริง เพราะด้วยฝีมือยังไม่ถึงขั้นเท่าไหร่ อย่าว่ากันนะ รูปกับวิวสวยๆ นิดๆ หลังจากนั้นชาวบ้านที่ถือตะเกียงก็พาเดินเข้าถ้ำ

ในถ้ำ นี้จะเห็นโรงศพของผีแมน หลังจากนั้น ก็ได้นั่งแพ ออกจากถ้ำกับบรรยากาศที่เงียบได้ยินเสียงหยดน้ำ จากบนถ้ำหยดลงน้ำ เสียงปลาไหว้น้ำเพื่อมาส่ง เมือแพถึงทางออกก็เดินไปขึ้นรถเพื่อออกเดินไปที่พัก เพื่อทานข้าวแล้วก็เข้านอนเตรียมตัวออกเดินทางพรุ่งนี้ กันต่อ

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562

ตื่นตี 5 ครึ่งออกเดิน ทาง 6 โมงเช้า เริ่มจากการ ไปหาอาหารเช้าแบบพื้นเมืองรับประทานที่ บ้านจ่าโบ่ เมนูที่บ้านจ่าโบ่ อำเภอปาย จ.แม่ฉ่องสอน ก็จะมี ข้าวต้ม ข้าวผัด น้ำพริกมูเซอ กินคู่กับผักหลากหลายชนิด อร่อยไปอีกแบบ ได้ท่านอาหารที่แสนอร่อยแล้ว ยังได้อิ่มเอมกับบรรยากาศ หมอกยามเช้า ภูเขาสวยๆ หลังจากนั้นก็ที่ขาดไม่ได้เลย ก็ต้อง เก็บภาพคู่กับวิวสวยๆ สักหน่อยนะคะ เดินออกไปเพื่อไปขึ้นรถก็อดที่จะแวะชมของฝากของชาวบ้านไม่ได้ ด้วยความสวยงามของสีสัน ที่ชวนให้หยุดแวะชม สอบถามดูแม่ค้าบอกว่า เสื้อที่เห็นนะเย็บเองนะจ๊ะ ฝีมือล้วนๆเลยละ ติดไม้ติดมือกันคนละชิ้นสองชิ้น เพื่ออุดหนุนการท่องเที่ยวแบบชุมชนสักหน่อย พอหอมปากหอมคอ จากนั้นก็ออกเดินทางไปชม ความงาม ที่ ทุ่งบัวตอง

เมือเดินทางมาถึง ทุ่งบัวตอง  อำเภอขุนยวม แม่ฮ่องสอน ก็ตื่นเต้นมาๆ เพราะฝนตกพอดี แต่ด้วยความสวยงามของ ทุ่งบัวตอง ที่บานสะพรั่ง ชวนเหลือเกินให้ลงจากรถ ไปชมความงาม ไปเก็บภาพ มาฝาก ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ สมใจ สวยงามสุดๆ ใครยังไม่ได้มา ก็ต้องหาเวลามาให้ได้นะ ความสวยงามกับบรรยากาศสดชื่นชวนให้ถ่ายรูปสวยๆมาเยอะเลย หลังจากที่ชมความงามของทุ่งบัวตอง เสร็จแล้วก็ได้เวลาเดินทางต่อ ไปรับประทานอาหาร เที่ยงกันที่ ร้านเฮินปิลันธน์  แม่ฮ่องสอน  เมนูที่นี่จะมี แกงแค ซ่าถั่วป๋อง  (ถั่วพู),  ซ่า = ดิบ โก๋ = สุก , ข้าวส้ม ,จิ้นลุง,ปลาจอ หนังปอง(หนังควาย หรือ หนังวัว) อร่อยมากค่ะ นอกจากทานอาหารแล้ว ยังได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรมพื้นเมือง ของชาวบ้านเมืองปอน ทานข้าวอิ่มก็ได้เวลา เดินทางไปต่อ ที่วัดต่อแพ


วัดต่อแพ ตั้งอยู่ที่ บ้านต่อแพ ตำบลแม่เงา จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นวัดเก่าแก่อยู่ริมน้ำ นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดที่จะเข้าชมให้ได้  สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งชุมชนเก่าแก่ของแม่ฮ่องสอน ที่ยังมีความงดงามและยังคงรักษาบรรยากาศแบบไท ไทยใหญ่ ไว้อย่างน่าสนใจ มากๆ ด้วยประวัติที่ไม่ธรรมดาของวัดต่อแพ เล่ากันว่า วัดต่อแพ เดิมเป็นวัดร้าง มีเจดีย์เก่าๆ ที่เหลือเป็นซากอิฐจำนวนมาก ต่อมมามีพระพม่า มาจำวัดอยู่  ชาวบ้านจึงได้ตั้งที่นี่เป็นสำนักสงฆ์ในปี พ.ศ.2461 จากนั้นก็มีพ่อค้าจีนที่มาพักบริเวณนี้ เพื่อจะต่อแพ บรรทุกข้าวสารไปขายยัง แม่สะเรียง ได้รวบรวมปัจจัยทำนุบำรุงวัดให้ดีขึ้น

สิ่งน่าสนใจภายในวัดต่อแพ

เจดีย์ทรงเครื่องแบบมอญ วิหารแบบไทยใหญ่ ทั้งเจดีย์และวิหารตั้งเด่นอยู่กลางลานวัดโดยมีกำแพงแก้วล้อมรอบเจดีย์มีสถาปัตยกรรมแบบมอญตั้งอยู่บนฐานแปดเหลี่ยม ที่ส่วนยอดประดับฉัตรโลหะเจ็ดชั้น ตั้งอยู่คู่กับวิหารโถงซึ่งเป็นศิลปะไทยใหญ่ มีหลังคาซ้อนหลายชั้นอย่างวิจิตรพิสดาร แสดงให้เห็นฝีมืออันประณีตของช่างไทยใหญ่ในยุคนั้น
ศาลาการเปรียญ เป็นสถาปัตยกรรมพม่าผสมไทยใหญ่ที่สวยงามมาก สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง มีความกว้าง 30 ม. ยาว 25 ม. หลังคาแยกเป็นหลังๆ ซ้อนเป็นชั้นๆ มุงด้วยสังกะสี ประดับโลหะฉลุลายอย่างสวยงาม
ผ้าม่านโบราณ ชาวพม่านำมาถวายให้เป็นสมบัติของวัด ผ้าม่านผืนนี้มีอายุร้อยกว่าปี เป็นศิลปะแบบพม่า ปักดิ้นทองลานนูนประดับด้วยทับทิมกับอัญมณีที่มีค่าแสดงเรื่องราวพระเวสสันดรชาดก ปัจจุบันผ้าม่านโบราณผืนนี้จัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์บนจอง 4. อาคารสถาปัตยกรรมไทยใหญ่ เป็นอาคารขนาดเล็กต่างๆ ที่ตั้งอยู่ภายในวัด ได้แก่ ถาน(ส้วม) ศาลาสรงน้ำ ศาลาบ่อน้ำซึ่งล้วนมีลักษณะสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น คือ มีหลังคาซ้อนเป็นชั้นๆ ประดับด้วยไม้แกะสลักอย่างสวยงาม
จุดเด่นอีกอย่างคือ การขับรถ ATV ชมบรรยากาศ สนุก ได้ความรู้ ครบรูปแบบจริงๆกับกิจกรรม Fam Trip ครั้งนี้ ยังไม่อยากไปไหนเลย แต่ด้วยเวลา กำหนด ก็ต้องออกเดินทางไปชมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเมืองปอนหมู่ที่ 1 อำเภอขุนยวม ที่นี่มีสวนสมุนไพร ให้ได้ศึกษามากมาย  การนวดแบบไทยๆนอกจากจะมีการนวดแล้วยังมีมาร์คหน้าแบบไทยๆ ด้วยวิธีชาวบ้านนะคะ

หลังจากนั้นก็ได้ออกเดินไปชมพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 หรืออนุสรณ์สถานมิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น เข้าชมวิดีทัศน์ความเป็นมาของประวัติศาสตร์ชุมชนและความสัมพันธ์กับกองทัพทหารญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่กับชุมชนบ้านขุนยวม พร้อมกับเยี่ยมชมอุปกรณ์เครื่องใช้และอาวุธของทหารญี่ปุ่นที่เก็บรักษาไว้ภายในพิพิธภัณฑ์ โดยมี การแนะนำประวัติความเป็นมา สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากที่ชมวิดีโอเสร็จวิทยากรประจำศูนย์ ก็พาไปชมอาวุธสงคราม ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เช่น เสื้อผ้าชุดทหารญี่ปุ่น หลังจากที่ชมสถานที่นี้เสร็จก็ได้เวลาเดินทางไปเพื่อที่พัก เพื่อเก็บของ และเตรียมตัวแต่งชุดสวยๆ ไปร่วมงาน เปิดตัวหมู่บ้านการจัดการท่องเที่ยวหมู่บ้านเชิงประวัติศาสตร์ ต้องมนต์เมืองสามหมอก เสน่ห์เมืองแห่งชาติพันธุ์


ประธานเปิดงานในครั้งนี้ ได้รับเกียรติ จาก ว่าที่ร้อยเอก สันติพงศ์ บุลยเลิศ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด พร้อมด้วย  นายโยธิน ทับทิมทอง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานแม่ฮ่องสอน วัฒนธรรมจังหวัด และผู้แทนหอการค้าจังหวัด  เข้าร่วมพูดคุยแรกเปลี่ยนพร้อมให้ข้อมูล แกผู้ร่วมงาน และสื่อมวลชน พร้อมชมการแสดง  สวยงามมากๆค่ะ

9 พฤศจิกายน 2562

วันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายแล้วนะคะ กับการท่องเที่ยวที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน กับ กิจกรรม Fam Trip แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เส้นทางเดินทัพทหารญี่ปุ่น สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ในวันนี้  ตื่นตั้งแต่ตี 5 เลยค่ะ เพื่อเตรียมตัวอาบน้ำแต่งตัว เพื่อไปใส่บาตร ชมวิถีชาวเมือ ประมาณ 6 เช้า หลังจากที่ใส่บาตรเสร็จก็เดินเข้าไปชมในตลาดสักหน่อย ดูว่ามีอะไรบ้าง  จากนั้นก็ออกเดินทางต่อไปที่ วัดพระธาตุดอยกองมู เมืองสามหมอก จ.แม่ฮ่องสอน เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาช้านาน ตั้งอยู่บนดอยกองมู  วัดปลายดอยประกอบ ด้วยพระธาตุเจดีย์ที่สวยงาม 2 องค์ พระเจดีย์องค์ใหญ่สร้างโดย จองต่องสู่ เมื่อ พ.ศ. 2403 เป็นที่บรรจุพระธาตุของ พระโมคคัลลานะ เถระ ซึ่งนำมา จากประเทศพม่า ส่วนพระธาตุเจดีย์องค์เล็กสร้างเมื่อ พ.ศ. 2417 โดย พระยาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอน คนแรก จากวัดพระธาตุ ดอยกองมูนี้สามารถมองเห็น วิวที่สวยงามมาก ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน  จากจุดนี้ได้เลย  หลังจากนั้นไปต่อที่  สะพานซูตองเป้ ตั้งอยู่ที่บ้านกุงไม้สัก อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน  จังหวัดแม่ฮ่องสอน  สะพานซูตองเป้  มีความกว้าง 2 เมตร เป็นสะพานไม้ที่สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของชาวบ้าน หลังจากนั้นก็กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่ง คำว่า ซูตองเป้  เป็นภาษาไทใหญ่ แปลว่า อธิษฐานสำเร็จ หรือบางคนก็บอกว่าแปลว่า ความสำเร็จ  มีความเชื่อกันว่า หากได้มายืนอยู่กลางสะพานแล้วอธิษฐานขอความ ความสำเร็จใดๆ ก็จะพบกับความสมหวัง นับว่าเป็นสะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย


จากสะพานซูตองเป้  ก็ได้เวลา เดินทางต่อ เพื่อไปรับประทานอาหาร อาหารกลางวันที่ร้าน กุงคุณลุง ตั้งอยู่ หมู่ 2 บ้านกุงไม้สัก ตำบลปางหมู อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีเครื่องดื่ม อาหาร ไอศกรีมสูตรพิเศษ ที่อร่อยไม่เหมือนใคร ที่นี่ทางร้านคิดขึ้นเอง อ่มอร่อย สนุกมีความสุขมากๆ กับ  กิจกรรม Fam Trip แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ครั้งนี้ แล้วพบกันใหม่นะคะ ครั้งหน้าจะเป็นที่ไหนนั้นต้อง ติดตามกันนะ

Comment here