ข่าวตำรวจ (ตร.)สังคมเหล่าทัพ

ใครกันนะ สั่งยิง”บิ๊กโจ๊ก” ?!?

คนมีสียศสูง หรือ ใครกันนะ สั่งยิง”บิ๊กโจ๊ก” ?!? “ตำรวจคนไหนกัน 2 ปีก่อน เคยยิงรถนักข่าว แล้วเรื่องเงียบ? บิ๊กโจ๊กชี้โพลงให้เห็นชัดๆ โดนกระทำแบบเดิมๆ โดยคนเดิมๆ หวังปิดปากปมทุจริตใน สตม. ถลุงสมบัติชาติกว่า 2 พันล้าน”

ใครสั่งยิง”บิ๊กโจ๊ก” ?!? “สรุปม้วนเดียวจบ ฟังชัดๆจากปากเจ้าตัว”

เปิดตัวกับผู้สื่อข่าวทุกสำนัก เข้าให้ปากคำกับตำรวจ สน.บางรัก เพราะถูกถล่มยิงรถยนต์ส่วนตัวขณะนอนนวดแผนไทยอยู่ที่ร้านนวด คิงบอดี้ ย่านสุรวงศ์ บางรัก สื่อหลานแขนงจับตาเปิดประเด็น ที่มาของการยิงขู่ครั้งนี้เกิดจากปัญหาอะไรกันแน่? หรือเพราะ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล สร้างกระแสยิงรถตัวเอง เพื่อกลับมาชิงพื้นที่สื่ออีกครั้ง และหวังสร้างสถานการณ์อะไรบางอย่างหลังเงียบหายไปนาน . “ผมไม่เคยอยากเป็นข่าวเลย พยายามเก็บตัวเงียบๆมาเป็นปี ถ้านักข่าวอยากจะสัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ก็สัมภาษณ์ได้ แต่ผมไม่ได้เปิดตัวให้สัมภาษณ์ กระทั่งครั้งนี้ต้องกลับมาเจอกันอีกครั้ง แต่ไม่ใช่ด้วยเรื่องดีๆ กลายเป็นเรื่องที่ผมต้องออกมาปกป้องตัวเอง เพราะเป็นผู้ถูกกระทำจากคนเดิมๆที่เคยยิงรถนักข่าวเมื่อ 2 ปีก่อน แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบเพราะจับคนร้ายไม่ได้ แต่ครั้งนี้เมื่อเค้าทำกับผมๆจะไม่ยอมให้เงียบอีกเด็ดขาด” . ไม่รู้บิ๊กโจ๊กหมายถึงใคร แต่ที่แน่ๆเมื่อ2ปีที่แล้ว นักข่าวรุ่นใหญ่ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติสังกัดหนังสือพิมพ์แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีปมขัดแย้งกับตำรวจยศใหญ่มากๆในรั้วปทุมวัน ถูกบุกยิงรถหน้าบ้านที่ย่านฝั่งธนบุรี และถึงแม้ตำรวจจะไปตรวจสอบหลักฐานและพยายามเสาะหาคนร้าย จนเวลาร่วงเลยผ่านไป 2 ปีเศษ ยังไม่มีทีท่าว่าจะจับผู้ก่อเหตุ หรือทราบเบาะแสอะไรใดๆเลย? . นอกจากนี้บิ๊กโจ๊กยังให้ข้อมูลชัดว่า เป็นเพราะปมขัดแย้งในรั้วปทุมวัน ประเด็นเรื่องเดียวที่มีผู้เสียผลประโยชน์ และเป็นประเด็นอยู่ทุกวันนี้ จากการเสนอยกเลิกโปรเจคเครื่องไบโอเมทริกซ์ เนื่องจากไม่ได้ประสิทธิภาพ จึงทำให้มีปัญหาขัดแย้งกับตำรวจระดับบิ๊กจริงๆ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ . “บิ๊กโจ๊ก” ยังให้ข้อมูลด้วยท่าทีจริงจังกับทีมข่าวด้วยว่า ความจริงมันไม่เกิดวันนี้ แต่มันจะต้องเกิดในอีกไม่กี่วัน ผมไม่ขอระบุว่าใครเป็นคนทำผม แต่ลองเปรียบเทียบดู เหมือนนักข่าวถูกยิงรถ เมื่อ 2 ปีก่อน นักข่าวต้องรู้ว่าใครยิง? เหมือนผมถูกยิงรถ ตำรวจก็ต้องรู้ว่าใครยิงรถผม #วันนี้มันรู้กันหมดนะครับ “วันนี้ประชาชนอาจจะสงสัยว่าเรื่องอะไร แต่คนในวงในมันรู้กันหมด การดำเนินการอย่างนี้ถ้าไม่ใช่ผู้มีอำนาจจริงๆ ไม่มีใครกล้าทำกับผมหรอก ซึ่งผมก็มั่นใจว่าเป็นคนเดียวกับที่ยิงรถนักข่าว ไหนบอกว่าตอนนี้ย้ายนักสืบเก่งๆมาเต็มนครบาล คนไม่เก่งย้ายออกไปหมดแล้ว ดังนั้นถ้าผมเป็น ผบ.ตร. ผมต้องรับผิดชอบ ต้องจับคนร้ายให้ได้ เพราะกล้องวงจรปิดมันเต็มไปหมด” เมื่อย้อนไปถามว่า การกระทำแบบนี้เพื่อจะข่มขู่ ข่มขวัญผู้ที่จะไปเป็นพยานในการสอบข้อเท็จจริงเรื่องของโปรเจกต์ ไบโอเมทริกซ์ หรือไม่? บิ๊กโจ๊ก พูดออกมาเองว่าพยานเหล่นนั้นก็ไม่ได้กลัวอะไร ที่สำคัญตอนนี้ถูกโยกย้ายออกไปหมดแล้ว . “ผมไม่ได้ท้าชนใคร ผมแค่ทำความจริงให้ปรากฏ ไอประเภทข้อมูลที่ไปบิดเบือนกัน มันต้องพอได้แล้ว มันต้องทำความจริงให้ปรากฏ เรื่องนี้มันเป็นสมบัติชาติตั้ง 2000 กว่าล้าน วันนี้ไปถามตำรวจถึงเรื่องนี้ คงไม่มีใครกล้าพูด แต่เมื่อไหร่ที่เค้าไม่อยู่ในอำนาจ เมื่อนั้นความจริงจะปรากฏ ผมเป็นผู้บังคับบัญชาตม. ถ้าผมไม่พบความผิดปกติจริงๆ ผมไม่กล้าเซ็นไปหรอก หนังสือยกเลิก เพราะถ้าผมเซ็นไป บริษัทเค้าต้องฟ้องผม ผมจบนักเรียนนายร้อยมาถูกสั่งสอนมา ไม่ได้ให้มาเอาใจคนๆเดียวแล้วเติมโต ผมถูกสอนมาให้ดูแลประชาชน เอาใจประชาชน” สำหรับมูลเหตุจูงใจให้มีการยิงรถ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ใครเสียผลประโยชน์ และเป็นจำนวนมหาศาลขนาดไหน คงต้องไปเช็กรายชื่อผู้ที่ถูกตรวจสอบซึ่งเช็กได้ไม่ยากว่าใครที่ถูกตรวจสอบจากการกระทำเช่นนี้ “ผมเป็นลูกผู้ชายพอ ไม่เคยไปเรียกร้องอะไรที่ไหน ชีวิตผมมาจากศูนย์ ผมโดนย้ายผมก็เก็บตัวเงียบๆ ดังนั้นไม่มีความจำเป็นที่ผมต้องสร้างสถานการณ์ เพื่อจะกลับมาเป็นตำรวจหรืออะไรทั้งสิ้น แต่ถ้าถามลึกๆว่าอยากกลับมาเป็นตำรวจมั้ย ก็ต้องอยากกลับนะ เพราะเราเป็นตำรวจอาชีพ แต่ถ้ากลับไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดต่อไป เพราะเราเป็นข้าราชการประจำ”

เรียบเรียงโดย ธราวุฒิขุดประเด็น

สาวทุกเรื่องให้สุด ขุดทุกประเด็นให้กระจ่าง ธราวุฒิขุดประเด็น

Comment here